SPOILER!!! Avengers Disassembled- อวสานอเวนเจอร์ 3/4 (Avengers #502)

เปิดฉากมาต่อจากตอนที่แล้ว Captain America และ Hawkeye ยังคงยืนประจันหน้ากับเหล่าบรรดาซุปเปอร์ฮีโร่จำนวนนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Namor ราชันย์แห่ง Atlantis, กลุ่ม Fantastic Four, Black Panther, Spider man ฯลฯ โดย Falcon ก็แอบไปยืนเนียนปนกับเขาด้วย (ซึ่งที่จริงไอ้ภาพนี้ มันภาพเดียวกับตอนที่แล้วเลยนี่ เอามาเทียบกันให้จับผิดด้วยนะ แค่โทนสีแดงกว่าเท่านั้น จะว่าไปถ้าสังเกตดีๆ Marvel ก็แอบเผางานเอารูปเก่ามาใช้บ่อยเหมือนกันนะเนี่ย)

“พวกคุณมาทำอะไรกันที่นี่” Captain America เอ่ยถามโดยไม่ได้ระบุตัวผู้ตอบ

“แล้วคุณจะให้พวกเราทำยังไง กัปตัน ครั้งหนึ่งพวกเราก็เคยเป็นสมาชิกของอเวนเจอร์ เมื่อพวกคุณมีภัย พวกเราจึงตอบสนองต่อสัญญาณขอความช่วยเหลือ” Black Panther เอ่ยขึ้น

ทว่าดูเหมือน Nick Fury ผู้บัญชาการแห่งหน่วย S.H.I.E.L.D. จะไม่ค่อยสบอารมณ์กับงานเลี้ยงรุ่นนี้เท่าไหร่นัก เพราะที่นี่เป็นสถานที่เกิดเหตุ และยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนอยู่ เขาจึงไม่อนุญาตให้ใครเข้ามายุ่ง พร้อมกับสั่งให้สลายม็อบทันที

“กัปตันคะ (ใช้ คะ, ค่ะ ผิดป่าวเนี่ย) เป็นความจริงเหรอ ที่ Scott Lang เสียชีวิตแล้ว” Ms. Marvel อดีตสมาชิกอเวนเจอร์สาวผู้มากด้วยเสน่ห์ ถามขึ้นโดยไม่ใส่ใจต่อคำสั่งของ Nick Fury

“ใช่” บุรุษผู้สวมเสื้อลายธงชาติ (มาไทยเป็นเรื่อง) ตอบอย่างเรียบง่าย ก่อนจะฉวยโอกาสสวมกอดเรือนร่างอันงดงามยิ่งกว่าสตรีผู้ละเล่นหนัง AV นางใด ของฮีโร่สาว พร้อมหันไปบอกกับเหล่าอดีตเพื่อนร่วมรบผู้กล้าให้ทำตามที่ Nick Fury สั่ง

ระหว่างนั้น หน่วย S.H.I.E.L.D.ก็ได้นำข่าวร้ายอันใหม่มาให้แก่สมาชิกอเวนเจอร์ ซึ่งกำลังถ่ายทอดสดทางช่อง CNN อยู่ในขณะนี้ โอกาสนี้เองสมาชิกหน่วย S.H.I.E.L.D.ก็ได้ถือโอกาสโชว์นวัตกรรมมือถือที่ใช้ดูทีวีได้ด้วยรุ่นใหม่ล่าสุดแก่เหล่าซุปเปอร์ฮีโร่

“เนื่องจากเหตุการณ์อันที่ไม่น่าพึงพอใจที่เกิดขึ้นในวันนี้ สหประชาชาติมีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะปฏิเสธความสัมพันธ์กับองค์กรที่รู้จักกันในนามอเวนเจอร์ นี่มิใช่การมองข้ามถึงความสำเร็จอันน่าอัศจรรย์ที่พวกเขาได้กระทำ ในความพยายามเพื่อให้ได้มาซึ่งสวัสดิภาพของโลก แต่เมื่อพิจารณาจากผลการขึ้นแถลงการณ์ต่อหน้าสาธารณชนของนายแอนโธนี่ สตาร์ค ในวันนี้ ประกอบกับความกังวลใจที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับเสถียรภาพขององกรณ์ยอดมนุษย์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันนี้ เราจะพิจารณาเรื่องนี้กันอีก...”

Hawkeye ผู้ซึ่งไม่สามารถทนฟังถ้อยคำจากปากของเสนาธิการแห่งสหรัฐได้อีกต่อไป เริ่มโวยวายขึ้นเรื่องที่พวกตนถูกลอยแพ จากพวกที่ไม่สำนึกบุญคุณเหล่านี้ แม้ Captain America จะพยายามแก้ตัวแทนว่าพวกเขากำลังพยายามทำในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด เพื่อรักษาภาพพจน์ต่อสายตาชาวโลก แต่ Falcon กลับไม่เห็นด้วย และมองว่าการทอดทิ้งพวกเราในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดนี้ เป็นการกระทำที่ไร้ซึ่งคุณธรรมมาก

ถ้านี่ยังไม่เลวร้ายพอ Nick Fury เพิ่งจะได้รับแจ้งมาว่า ขณะนี้ Tony Stark ได้ถูกปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ก่อนที่ทุกคนจะเริ่มโวยวายอะไรไปมากกว่านี้ Nick Fury ก็รีบตัดบทบอกให้กลุ่มม็อบซุปเปอร์ฮีโร่สลายตัวได้แล้ว

ทว่าก่อนที่ Nick Fury จะได้ทันพูดจนจบประโยค เขาก็ต้องถึงกับตกตะลึง ที่จริงไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่บรรดาเหล่าวีรบุรุษและวีรสตรีผู้กล้าที่ต่างก็เคยเผชิญกับหายนะเสี่ยงตายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ต่างก็พากันตกตะลึงกับภาพที่เห็น เมื่อน่านฟ้าเหนือซากปรักหักพังในกองเพลิงของอเวนเจอร์แมนชั่นในขณะนี้ ได้ปรากฏยานรบขนาดมหึมาของจักรวรรดิ Kree หนึ่งในสามมหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในกาแล็กซี่ (มั้ง ในจักรวาล Marvel ที่เหลือก็น่าจะมีแค่ Shi'ar กับ Skrull นะครับ)

“สมาชิกอเวนเจอร์ทุกคนที่บินได้มารวมตัวกัน Warbird(หมายถึงMs. Marvel) นำขบวน แล้วขึ้นไปสังเกตการณ์ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน” Captain America หันไปสั่งอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่างมีสติ

ทางด้าน Nick Fury ก็รีบติดต่อกับ Helicarrier ฐานทัพประจัญบานลอยฟ้า ศูนย์บัญชาการใหญ่ของหน่วย S.H.I.E.L.D. เพื่อทราบความเคลื่อนไหวทันที ทว่าทางศูนย์บัญชาการกลับตรวจไม่พบสัญญาณผิดปกติใดๆทั้งสิ้น Nick Fury พยายามถามย้ำกับทางศูนย์ว่าไม่เห็นจริงๆเหรอว่ามียานรบขนาดมหึมาลอยอยู่เหนือน่านฟ้า New York City

“เอ่อ ผมเห็นนะ นั่นช่วยอะไรได้บ้างมั้ย” Spider man ยังคงเล่นมุกตลกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของเขา

“ชะ...ชั้นอยากได้ลูกธนูมากกว่านี้จัง” Hawkeye กล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง สายตาของเขายังคงจ้องไปบนท้องฟ้าแบบไม่ให้คลาดสายตา

บัดนี้น่านฟ้าเหนืออเวนเจอร์แมนชั่นที่ถูกย้อมด้วยสีแดงฉานราวกับจะบ่งบอกถึงวัยสิ้นโลก ได้ถูกประดับประดาไปด้วยฝูงยานรบขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนของจักรวรรดิ Kree ซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาจากยานแม่ขนาดใหญ่ ลำแสงมรณะสีเหลืองอมเขียวอันงดงามมากมาย ที่ถูกสาดส่องลงมาจากฝูงยานบินเหล่านี้ ช่างตัดกับสีแดงเลือดสดของท้องฟ้าในขณะนี้ได้อย่างงดงามยิ่งนัก

การต่อสู้โดยมีชีวิตและโลกเป็นเดิมพัน ของเหล่าฮีโร่ผู้กล้า ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเรียกตัวเองว่าอเวนเจอร์ได้เริ่มขึ้น สมาชิกอเวนเจอร์ที่สามารถบินได้ ได้เข้าห้ำหั่นกับฝูงยานบินอย่างกล้าหาญ ในขณะที่พวกที่เหลือกลับต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหลบหลีกลำแสงพิฆาตจากนอกพิภพ และคอยหาโอกาสสนับสนุนเพื่อนที่ต่อสู้อย่างยากลำบากเหนือน่านฟ้า เมื่อมีโอกาส

แม้ Nick Fury จะพยายามใช้ปืนรังสีของหน่วย S.H.I.E.L.D. ช่วยยิงสนับสนุนจากภาคพื้นดิน แต่ก็ไม่สามารถเจาะทะลุผ่านสนามพลังของยานแม่เข้าไปได้

ในที่สุด Hercules เจ้าชายแห่งพลัง บุตรของ Zeus เทพผู้ยิ่งใหญ่ ก็อาศัยจังหวะที่ Wonder man ขว้างยานรบลำหนึ่งลงมา ใช้หมัดขวาอันทรงพลังทำลายยานรบของพวก Kree ได้สำเร็จ และพยายามลากตัวทหารประจำยานบินออกมา เพื่อสอบถามเรื่องราว แต่นักรบ Kree ก็หาได้ยอมจำนนแต่โดยดีไม่ ยังคงใช้ปืนพกประจำตัว สาดลำแสงที่มีอานุภาพไม่แตกต่างไปจากของยานรบที่บินว่อนอยู่เหนือท้องฟ้าในขณะนี้ เข้าใส่บุตรแห่งเทพ ก่อนที่จะวิ่งหนีไป

“เฮ้ นายลืมให้ทิปคนขับแหน่ะ” Spider man ผู้ที่พยายามจะจับทหารเลวด้วยใยของตนเอ่ยขึ้น

แม้ว่าความพยายามของ Spider man จะล้มเหลว แต่นั่นก็เพียงพอที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของทหารผู้เซ่อซ่า จนวิ่งไปชนกับโล่ของวีรบุรุษจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ยืนดักรออยู่

“ช่วยบอกผมหน่อยได้มั้ย ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน ทหาร” Captain America กล่าวขึ้นราวกับสั่งทหารผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา

“แก พวกแก...อเวนเจอร์ หยามเกียรติเผ่านักรบอย่างเรา เรามาเพื่อลบพวกแกออกจากหน้าประวัติศาสตร์ของอารยรรม Kree ที่ยิ่งใหญ่ นี่จะเป็นจุดจบของอเวนเจอร์ พวกแกต้องตายด้วยน้ำมือของคนที่พวกแกเคยทรยศ” ทหารเลวกล่าวด้วยภาษาที่ผ่านการแปลเป็นภาษาของมนุษย์โลกแล้ว

“เราเคยทรยศพวกแกตั้งแต่เมื่อไหร่” Captain America พยายามซักไซ้

แต่ก่อนที่จะได้คำตอบอะไรจากทหารเลวผู้เซ่อซ่า ลำแสงประหลาดสีฟ้า ก็ได้หอบพาเอาร่างของนักรบใจเสาะคนดังกล่าวหายไป แม้ Captain America จะกุมคอเสื้อของเขาไว้อย่างแน่นหนาแล้วก็ตาม ลำแสงแบบเดียวกันจำนวนมากมาย ถูกสาดส่องมาที่พื้นโลก ในพริบตา กองทัพทหารเท้าจำนวนมากของจักรวรรดิ Kree ผู้ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเกินกว่าจินตนาการมนุษย์โลก แต่กลับมีความล้าหลังในเรื่องวงการแฟชั่น ต่างกรีฑาทัพลงมาหมายจะสำเร็จโทษเหล่าฮีโร่ผู้กล้าทุกคนที่ตนพบเจอ ลำแสงสีเหลืองอมเขียวมากมาย ถูกสาดส่องอีกครั้ง จากปากกระบอกปืนพกของเหล่าทหารเลว

“นี่มันไม่ถูกต้อง ไอ้พวก Kree นี่มันมีเทคโนโลยีขนาดถล่ม New York ให้ราบเป็นหน้ากลอง ได้โดยไม่จำเป็นต้องเสียเหงื่อเลยด้วยซ้ำ พวกมันไม่มีความจำเป็นต้องยกพลขึ้นบก ผมบอกได้เลยว่านี่มันผิดปกติมาก” Nick Fury บอกกับ Captain America ด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล

ระหว่างที่การต่อสู้ที่ขณะนี้ลุกลามมาถึงภาคพื้นดิน ยังคงดำเนินต่อไป Hawkeye บุรุษผู้ยิงธนูได้แม่นยำที่สุดในจักรวาล Marvel จ้องมองเหล่าทหารเลวด้วยสายตามุ่งร้าย

“พวก เอเกรียน!!! อย่างแกแส่มาหาเรื่องกับอเวนเจอร์ผิดวันแล้ว” บุรุษผู้มีสายตาเฉียบคมปานเหยี่ยวแผดเสียง ร้องพร้อมกับใช้ธนูคู่กายของตน ยิงใส่เหล่าเอเลี่ยนร้าย ตนแล้วตนเล่าโดยปราศจากความหวาดหวั่น เขาได้เข้าตะลุมบอน ฝ่าลำแสงมรณะมากมายที่ถูกสาดส่องไปทั่วบริเวณอย่างไม่รู้ที่มา

“สิ่งที่พวกแกต้องทำต่อไปก็คือ....” ก่อนที่ Hawkeye ผู้น่าสงสารจะได้ทันพูดจบ ลำแสงพิฆาตที่ตัดสินชะตาชีวิตของเขา ก็ได้ถูกซัดเข้าใส่เต็มกลางหลัง ชนิดที่ว่าหาที่มายังไม่เจอด้วยซ้ำ ลูกธนูคู่ใจที่เตรียมไว้ต่างลุกเป็นไฟไปพร้อมๆกับแผ่นหลังของเขา Captain America มองเพื่อนร่วมรบ ด้วยใบหน้าที่แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

“มันต้องไม่เป็นแบบนี้ มันต้องไม่เป็นแบบนี้!!!” บุรุษผู้ที่ยืนอยู่ห่างจากความตายแค่เอื้อมตะโกนขึ้น พร้อมกับใช้แรงเฮือกสุดท้าย คว้าตัวทหาร Kree มาได้คนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะใช้เครื่องยนต์ไอพ่นขนาดเล็กที่ติดอยู่ด้านหลังของทหารคนดังกล่าว บังคับพาตัวเองและทหารเลวผู้เคราะห์ร้าย ทะยานพุ่งเข้าชนกับเครื่องยนต์ของยานแม่ของจักรวรรดิ Kree เข้าอย่างจัง นี่คือครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เห็นหน้าของ Hawkeye

เกิดแรงระเบิดครั้งใหญ่สนั่นหวั่นไหวไปทั่วท้องฟ้า แรงระเบิดที่รุนแรงราวกับท้องฟ้าจะถล่มลงมา เสียงสัญญาณแห่งชัยชนะของเหล่าอเวนเจอร์ ชัยชนะที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของเพื่อนผู้เป็นที่รัก บัดนี้ยานแม่ของจักรวรรดิต่างดาวอันเกรียงไกรได้ร่วงหล่นลงมาสู่พื้นโลกแล้ว ภายใต้ความสับสนอลหม่าน Captain America ตะโกนขึ้นเหมือนคนเสียสติ “อเวนเจอร์รวมตัว!!!” ทว่าจักรวรรดิ Kree หาได้คิดที่จะต่อกรกับเหล่าบรรดาผู้กล้าของโลกต่อไปไม่ พวกมันค่อยๆล่าถอยไป ก่อนที่หายลับไปอย่างไร้ร่องรอยเหมือนกับเมื่อครั้งที่พวกมันปรากฏตัว

Captain America หยิบคันธนูคู่ใจของเพื่อนผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เหลือให้ดูไว้ต่างหน้า ขึ้นมาโดยไม่พูดอะไร ภายใต้ความเศร้าสลดของเหล่าบรรดาอดีตสมาชิกอเวนอเจอร์ Ben Grimm สมาชิกร่างยักษ์จากกลุ่ม Fantastic Four ระงับความเศร้าไว้ไม่ได้ ถึงกับพยายามที่จะเข้าไปหาศพของ Hawkeye ที่น่าจะเละเป็นจุลไปพร้อมกับยานแม่ไปแล้ว จน Reed Richards ต้องเข้ามาห้ามไว้ ก่อนที่ทุกคนจะทันคิดวางแผนทำอะไรต่อไป บุรุษผู้หนึ่งก็ปรากฏกายขึ้น

“ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถมาได้เร็วกว่านี้ แต่ผมคิดว่าตอนนี้ พวกคุณน่าจะเริ่มเข้าใจถึงรูปแบบของการโจมตีครั้งนี้แล้ว เวทมนต์กำลังถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด” Doctor Strange จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล Marvel ผู้ปรากฏกายต่อหน้าเหล่าฮีโร่ผู้สูญเสียในสภาพกายทิพย์เอ่ยขึ้น

“ไม่นะ“Captain America บ่นพึมพำกับตัวเองเหมือนกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้กันแน่

จบตอน