SPOILER!!! Avengers Disassembled- อวสานเหล่าฮีโร่ภาคจบ 4/4 (Avengers #503)

เปิดฉากมาที่เช้าวันสดใส ณ อเวนเจอร์แมนชั่น แม้จะยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ที่ทราบแน่ชัดก็คือ นี่ต้องเป็นช่วงก่อนวันหายนะของเหล่าอเวนเจอร์อย่างแน่นอน เพราะเรายังสามารถเห็น Clint Barton (Hawkeye) ผู้ล่วงลับไปแล้ว กำลังซ้อมยิงธนูอยู่ริมสระน้ำอันหรูหรา เสื้อกล้ามสีส้ม กับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินเข้ม เป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าบุรุษตาเหยี่ยวผู้นี้กำลังพักผ่อนจากการปฏิบัติหน้าที่ อีกฟากหนึ่งของสระน้ำ สองสาวอเวนเจอร์กำลังนอนทอดกายอาบแดดอย่างสบายอารมณ์ในชุดทูพีชสีงามตา ด้วยทรวดทรงอันต้องตาที่ทำให้ชายหนุ่มทุกคนต้องเหลียวหลังนี้ บอกไปก็คงไม่มีใครเชื่อว่าเธอทั้งสองเคยผ่านการสมรสมาก่อน

Janet van Dyne (Wasp) หนึ่งในสองสาวที่นอนอาบแดดอยู่ เป็นคนเริ่มเปิดประเด็นเรื่องผู้หญิงถึงผู้หญิงกับเพื่อนสาวที่อยู่ข้างกาย Wanda Maximoff (Scarlet Witch) สมาชิกอเวนเจอร์เพียงคนเดียว ที่แทบจะไม่เคยปรากฏตัวเลย ตั้งแต่เรื่องเลวร้ายต่างๆได้เริ่มต้นขึ้น กำลังรับฟังเรื่องราวของ Janet อย่างสงบ

เธอเริ่มรำพันเรื่องที่เดือนนี้ เพื่อนสนิทที่ต้องมาประจำทุกเดือนเกิดมาช้าผิดปกติ ทำให้เธอเกือบนึกว่าตัวเองจะต้องให้กำเนิด Clint Barton ตัวน้อยเข้าซะแล้ว (Janet หันไปคบกับ Hawkeye อยู่ช่วงหนึ่ง ตอนที่เลิกกับ Henry แล้ว) Janet พูดอย่างโล่งใจกับ Wanda เรื่องที่เธอไม่ได้ตั้งครรภ์จริง เพราะ เธอไม่คิดว่าเด็กๆจะสามารถเติบโตได้อย่างปกติในสภาพแวดล้อมแบบนี้

“พวกเราอเวนเจอร์ไม่สมควรมีลูก พวกยอดมนุษย์ไม่สมควรมีลูก เรื่องนี้ควรถูกตั้งเป็นกฎได้แล้ว แต่เธอกลับคิดว่าตัวเองน่าจะมีได้ซักสอง” Janet เผลอรำพันกับกับจอมเวทย์สาวเพื่อนสนิทโดยไม่ตั้งใจ

แต่คำพูดที่ดูเหมือนจะไม่สลักสำคัญอะไรนี้ นั่นกลับกลายเป็นการกระตุ้นบางสิ่ง บางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ามากที่ถูกปิดซ่อนไว้ในส่วนลึกของจิตใจบุตรสาวของจ้าวแห่งมิวแทนท์

“สอง...หมายความว่ายังไง” Wanda พยายามซักไซ้ เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากเพื่อนสาวปากมาก

Janet สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่จะรีบขอตัวไปเข้าห้องน้ำ โดยมิได้ให้คำตอบใดๆ ช่วงที่หล่อนเดินจากไปนั่นเอง สายตาของแม่มดสาวกลับยังคงตามมองจับจ้องร่างของ Janet ที่ค่อยๆเดินลับสายตาไปของอย่างมีเลศนัย ในใจเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ในขณะที่ Hawkeye ผู้ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ กลับไม่มีโอกาสได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้เลย

ตัดกลับมายังเหตุการณ์ในปัจจุบัน ณ สถานที่เดิมซึ่งบัดนี้กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว หมอแปลก ผู้ปรากฎตัวในรูปแบบของกายละเอียด ก็ได้เริ่มแนะนำตนเองต่อหน้าเหล่าฮีโร่ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่รู้จักเขาดี ว่าเขาคือ Dr.Stephen Strange ผู้ซึ่งศึกษาในศาสตร์ลี้ลับ (แถมคุยว่าบรรลุระดับปรมมาจารย์แล้วซะด้วย) โดยขณะนี้เขากำลังพูดคุยผ่านอีกมิติหนึ่ง ซึ่งซ้อนทับอยู่บนมิติที่ทุกคนอาศัยอยู่

หมอแปลกยังเสริมอีกว่าขณะนี้ตนได้ถือโอกาสร่ายเวทย์กำบัง ครอบคลุมบริเวณนี้เอาไว้ เพื่อป้องกันมิให้ หู ตา ของบุคคลผู้ไม่พึงประสงค์ทราบเรื่องราว แต่ก็คงรั้งไว้ได้ไม่นานนัก คุณหมอยังคงกล่าวขอโทษเหล่าฮีโร่อีกหนึ่งคำรบ เรื่องที่ตนเองนั้นมาไม่ทันการ เพราะได้ไปอยู่ในสถานที่ ที่ไม่สามารถรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ได้ แต่บัดนี้เขาตระหนักแล้วว่าเวทมนต์กำลังถูกทำให้แปดเปื้อน โดยบุคคลที่หวังทำลายเหล่าผู้กล้า

“เหตุการณ์แต่ครั้นอดีต.... การก่อวินาศกรรมครั้งใดๆ.... คลองสาน.....(พจนานุกรมของ อ.สอ เสถบุตร แปล Bedlam ว่า คลองสาน ด้วย หึหึ) ผมคงต้องขอถามพวกคุณแล้ว มีบุคคลใดบ้างหรือไม่ ที่เหล่าอเวนเจอร์เคยต่อกรมา จะมีอำนาจลึกลับที่ยิ่งใหญ่ได้เพียงนี้ บุคคลที่สามารถจะอยู่เบื้องหลังความโกลาหลระดับนี้ได้”

Dr.Strange เอ่ยถามบรรดาเหล่าผู้กล้าหน้าสลอน ซึ่งยังคงยืนแข็งทื่อ สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังจอมเวทย์ที่ลอยตัวอยู่เบื้องหน้าตน ชนิดตาไม่กระพริบกันเลยทีเดียว ราวกับว่าคำถามของหมอแปลกเมื่อกี้ เป็นคำสาปสะกดการเคลื่อนไหวของพวกเขาก็ไม่ปาน มีเพียง Captain America ผู้เดียวเท่านั้นที่ยังคงก้มหน้าอยู่ เพื่อพยายามที่จะปิดบังไม่ให้เพื่อนร่วมทีมเห็นน้ำตาที่กำลังไหลรินออกมา เพราะรู้ตัวว่าถูกเพื่อนที่เชื่อใจหักหลัง

ฉากถูกตัดไปยังสถานที่อื่นอีกครั้ง ในช่วงเวลาที่ไม่ได้ถูกระบุเอาไว้อย่างชัดเจน ณ.ที่พำนักของ Agatha Harkness จอมเวทย์หญิงชรา ผู้เป็นคนคอยให้คำปรึกษาแก่ Scarlet Witch บัดนี้มีแขกยามวิกาลที่ไม่ได้นัดหมายไว้ล่วงหน้า ได้เดินทางมาพบเธอ ใบหน้าของแขกที่ไม่ได้รับเชิญถูกบดบังด้วยเสื้อคลุมยาวที่ปกคลุมศีรษะ และความมืดในยามค่ำคืน แขกปริศนาร้องเรียกชื่อเธอด้วยเสียงอันแผ่วเบา

“Wanda Maximoff….” Agatha ร้องตอบพร้อมกับใช้ตะเกียงที่ถืออยู่ในมือ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ให้แสงสว่างแก่ห้องอันมืดมิดในขณะนี้ ส่องไปทางต้นเสียงเพื่อยืนยันตัวตนของผู้มาเยือน

“เมื่อกี้นี้ เธอเกือบทำชั้นขนลุกแน่ะ นั่งก่อนสิจ๊ะ เราสองคนไม่ได้คุยกันมานานมากแล้วนะ” แม่มดชราเอ่ยขึ้น เมื่อสามารถมั่นใจในตัวตนของผู้มาเยือนได้แล้ว แสงไฟจากตะเกียงเผยให้เห็นหน้ากากประหลาดๆมากมายที่ถูกแขวนไว้ในห้องนั่งเล่น หนังสือเก่าๆมากมายถูกวางเรียงรายไว้ในตู้อย่างเป็นระเบียบ บ่งบอกถึงงานอดิเรกของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี

“Agatha… ทำไมทุกคนถึงคิดว่าครั้งหนึ่งชั้นเคยมีลูกสองคน” Wanda เอ่ยถามขึ้นอย่างฉับพลัน โดยไม่มีการเกริ่นนำใดๆทั้งสิ้น แสงไฟจากตะเกียงเผยให้เห็นคราบน้ำตาบนใบหน้าของเธอ

จอมเวทย์ชราผู้มากด้วยประสบการณ์ ถึงกับสะดุ้งเล็กน้อยกับคำถามที่ถูกยิงมาโดยไม่ทันตั้งตัว จนเกือบทำถ้วยน้ำชา/กาแฟ/โอวัลติน หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่แอบเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบได้หก แต่หล่อนก็ยังคงพยายามรักษาสีหน้าให้เป็นปกติไว้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าแม่มดสาวไม่ปล่อยให้อาการนี้หลุดลอดสายตาไป (เลียนแบบสำนวนมาจากแฮรี่ พอตเตอร์)

“ลูกๆของชั้นอยู่ที่ไหน” Wanda เอ่ยถามด้วยเสียงที่พยายามทำให้ดูเป็นปกติที่สุด

“นั่งลงก่อนสิจ๊ะ Wanda แล้วเราค่อย....” Agatha พยายามทำให้อีกฝ่ายใจเย็นลง

“บอกชั้นมาเดี๋ยวนี้ ว่าลูกๆของชั้นอยู่ที่ไหน!!!” แม่มดแดงหันมาแฝดเสียงตวาดขึ้น จนผ้าคลุมศีรษะผลุดออกเผยให้เห็นใบหน้าที่เคียดแค้นของหญิงสาวอย่างชัดเจน คราบน้ำตากระเซ็นออกมาจากสองตาของเธอ ลิบสติกสีแดงสดที่ยังอุตส่าห์ทาไว้ แสดงให้เห็นว่าเธอยังคงมีอารมณ์ไปเสริมสวยอยู่ ไม่ต่างอะไรกับละครช่องเจ็ดที่นางเอกยังคงแต่งหน้า แม้ว่ากำลังจะเข้านอนแล้วก็ตาม

ฉากตัดกลับมายังเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ที่มาชุมนุมกันอีกครั้ง ซึ่งในขณะนี้ความเงียบได้ถูกทำลายลง ด้วยถ้อยคำบางคำที่ Captain America เอ่ยขึ้น

“ไม่จริง!” Wonder man เอ่ยขึ้น ด้วยสีหน้าตกตะลึง (ต้องมีคนเผลออ่านเป็น Wonder woman แน่ๆ)

“ไม่! เธอ...เธอเป็นคนดี เธอเป็นเพื่อนของพวกเรา” Ms. Marvel คัดค้านอย่างเต็มเสียง

“เธอไม่มีมันอยู่ในสายเลือดหรอกน่า” Falcon ตัวประกอบชั้นดี พยายามเล่นสำนวน

“ที่จริงแล้วเธอมี” Nick Fury ขัดคอขึ้นมา

“เธอเป็นลูกของ Magneto ก่อนที่เธอจะเข้ากลุ่มอเวนเจอร์ เธอเคยเป็นอาชญากรมิวแทนท์ เธอคือสมาชิกรุ่นก่อตั้งของกลุ่ม Brotherhood (กลุ่มที่ Magneto ตั้งขึ้น เพื่อรับมือกับพวก X-MEN)” Nick Fury เสริม

“และเธอก็แต่งงานกับหุ่นยนต์” Spider man พูดแทรกขึ้น โดยปราศจากเสียงคัดค้านใดๆจากเหล่าผู้กล้าที่มาชุมนุม เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่านี่คือสิ่งที่พวกตนคิดอยู่ในใจมานานแล้ว เพียงแต่ไม่มีใครที่กล้าพอจะเอ่ยขึ้นมา

“อย่าโกรธกันเลยนะ แต่ Vision เป็นหุ่นยนต์จริงๆ ถ้าผมออกเดทกับหุ่นยนต์ พวกคุณก็คงนินทาผมลับหลังเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ” Spider man ยังคงพูดต่อไป

“Vision ไม่ใช่หุ่นยนต์นะ เขาก็มีตัวตนเหมือนกับพวก.....แอนดรอยด์ นายมาทำอะไรที่นี่เนี่ย (นั่นสิ เห็นส่วนใหญ่เอาแต่ปล่อยมุก)” Falcon ผู้ปฏิเสธสิ่งที่ตนเองไม่เคยกล้ายอมรับมาโดยตลอด พยายามโต้ตอบ Spider man แต่ก็ต้องจำใจตัดบทไปในที่สุด

“ชีวิตของ Wanda ต้องประสบแต่เคราะห์กรรมมาโดยตลอดก็จริง แต่ไม่มีเหตุจูงใจอะไรให้เธอทำเรื่องแบบนี้ได้หรอก ถึงแม้จะรวมเรื่องที่เกิดกับลูกๆของเธอก็ตาม ซึ่งนั่นก็น่าเศร้ามาก” Falcon เปลี่ยนมาแก้ต่างแทนเพื่อนรักแทน

Dr.Strange รู้สึกสะกิดใจกับประโยคสุดท้ายของ Falcon จึงเอ่ยถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กฝาแฝดที่ตนเองก็เคยมีส่วนช่วยทำคลอด

“ปรากฏว่า เธอเสกพวกเขาขึ้นมา น่าจะเรียกแบบนั้นนะ พวกเขาไม่มีอยู่จริง” Beast มิวแทนท์อัจฉริยะ ผู้มีร่างกายเป็นสัตว์อสูรสีฟ้า หนึ่งในสมาชิก X-MEN และอดีตสมาชิกอเวนเจอร์ช่วยอธิบายเรื่องราว

“Agatha Harkness... อาจารย์ของเธอ...เป็นคนค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเด็กพวกนั้น เธอจึงลบพวกเขาออกไป เธอจัดการทุกอย่าง (รวมทั้งลบความทรงจำของ Wanda ที่จริงเรื่องมันยาวและซับซ้อนกว่านี้มากครับ)” Ms. Marvel ช่วยเสริม

Dr.Strange เริ่มบ่นที่ไม่มีใครคิดจะมาปรึกษาตนตอนที่เกิดเรื่องขึ้น พร้อมเตือนถึงความแปรปรวนในพลังของ สาว Maximoff เนื่องจากพลังเวทย์ของเธอมิได้เกิดจากการศึกษาในศาสตร์ลี้ลับ แต่มันคือพรสวรรค์ที่เกิดมาพร้อมกับเธอ ในฐานะมิวแทนท์ มันถูกมอบให้เธอโดยมิได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา แม้สมาชิกอเวนเจอร์คนอื่นจะพยายามเถียงแทนเธอ แต่ Captain America ก็ยังจำต้องยอมรับว่า ในอดีตเธอเคยมีปัญหาในการควบคุมพลังของตัวเอง

“เดี๋ยวก่อนนะ ถ้าเรื่องทั้งหมดนี่เกิดจากเวทมนต์ มันก็ต้องสามารถแก้ไขได้สิ ได้โปรดช่วยนำเพื่อนๆของเรากลับมาด้วยเถอะค่ะ” Ms.Marvel พูดอย่างมีความหวัง

“ผมต้องขอโทษด้วย ถ้าไม่ได้อธิบายให้ชัดเจน แต่เวทมนต์ไม่ใช่ภาพลวงตา เหตุการณ์ในวันนี้เกิดขึ้นจริง และเพื่อนของพวกคุณก็ได้จากไปแล้ว” Dr.Strange ตอบกลับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ในขณะที่ฮีโร่สาวหันไปซบ กับไหล่ Falcon ด้วยความผิดหวัง (Ms.Marvel นี่เที่ยวกอดชาวบ้านไปทั่วเลย) เหล่าฮีโร่คนอื่นต่างก็มีสีหน้าเศร้าสลดไม่แพ้กัน

Dr.Strange ยังเสริมอีกว่าครั้งหนึ่ง เขาเคยพยายามชักชวน Wanda ให้มาเป็นลูกศิษย์ แต่ความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างเธอกับครอบครัวและเพื่อนร่วมทีม เป็นตัวขัดขวางเธอไว้

เหล่าผู้กล้าเริ่มถกเถียงกันอีกครั้ง บ้างก็ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะกล้าฆ่าอดีตสามีตัวเองได้ลงคอ บ้างก็ว่านี่อาจเป็นฝีมือของ Loki เทพแห่งการหลอกลวงและการโกหก (คำว่าเกรียนเทพ อาจจะมีที่มาจากเทพองค์นี้ก็เป็นได้) พี่ชาย (ไม่แท้) ของ Thor

“คุณผิดแล้ว Wanda อยู่กับผมที่การประชุมวันนี้ ที่สหประชาชาติ ไม่มีทางเป็นฝีมือเธอแน่” Tony จาผู้ตัดสินใจกลับมาถ่ายหนังที่เหลืออีกเพียง 20% ก็จะจบแล้วนี้ เหาะลงมาพร้อมกับชุดเกราะเหล็กของเขา (คงยังไม่ลืมนะครับว่าหมอนี่งอนที่ถูกเพื่อนหาว่าติดเหล้า เลยบินหนีหายไป ตอนที่แล้วไม่ได้โผล่มาเลย)

Dr.Strange จึงแย้งว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่เธออาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง

“ได้โปรดลืมซะ ว่าเรากำลังพูดถึงเพื่อนของพวกคุณ นี่คือเรื่องราวของ มนุษย์กลายพันธุ์ที่กำพร้าตั้งแต่ยังเล็ก (Magneto เพิ่งจะมารู้ว่าเป็นลูก ก็ตอนโตแล้ว) ที่มีอดีตอันแสนขมขื่น ด้วยพลังที่เธอไม่สมควรได้รับ ไม่สามารถควบคุมได้ พลังที่เธอไม่มีวันที่จะเข้าใจอย่างถ่องแท้ พวกคุณจะสามารถเข้าใจถึงสภาพจิตใจอันเปราะบาง ของหญิงสาวผู้สามารถควบคุมความเป็นจริงได้มั้ย

นั่นหมายถึง ความจริงจะเข้าควบคุมเธอ จินตนาการกลับกลายเป็นศัตรู ข้อจำกัดต่างๆจะหายไป ความเป็นจริงแบบที่เธอเคยรับรู้ จะค่อยๆหลุดลอย หลีกหนีไปจากเธอ เลือนลางหายไป

อุปสรรคต่างๆที่ถาโถมเข้ามา ความขัดแย้ง ความเศร้าโศก ล้วนกลายเป็นข้ออ้างที่เธอใช้ในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ ให้เป็นไปตามที่เธอต้องการ อะไรที่เธอไม่ชอบ เธอสามารถเปลี่ยนมันได้หมด ไม่ว่าจะผู้คน สถานที่ สิ่งของ

แต่ทุกครั้งที่เธอทำมัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลสูงส่งยังไงก็ตาม เธอจะค่อยๆสูญเสียตัวของตัวเองไป แต่เธอก็ยังคงแอบดิ้นรนอย่างเงียบๆอยู่ทุกวัน ในการควบคุมตัวเองเอาไว้ เพื่อที่จะรักษาตัวตนของเธอ

สำหรับผู้ที่มีความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ผู้มีจิตใจอันบริสุทธิ์ การควบคุมพลังแบบนี้ ยังถือว่าเป็นงานที่หนักหนาสาหัสมาก แต่นี่เรากำลังพูดถึงหญิงสาว ที่ทั้งสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา และหน้าที่ที่รับผิดชอบ ต้องเจอแต่ความตึงเครียด และความสับสนวุ่นวายอยู่ทุกวัน"

"และหลังจากที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความรักที่ล้มเหลว ความรุนแรง และความสะเทือนใจ เธอก็บอกกับตัวเองว่า ชั้นสมควรได้รับความสุขบ้าง ชั้นอยากจะสร้างบางสิ่งที่ดีงามขึ้นมาบนโลกใบนี้ บางสิ่งที่ชั้นสามารถที่จะรัก แล้วเธอก็ให้กำเนิดเด็กๆที่เธอไม่สามารถจะมีได้(Vision เป็นแอนดรอยด์)

เธอพยายามจะเล่นบทของผู้เป็นแม่ เพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกเหมือนเป็นคนปกติ แต่นั่นก็กลับต้องกลายเป็นโศกนาฏกรรมเช่นเดียวกัน ถ้าผมเล่าเรื่องแบบนี้ให้พวกคุณฟัง พวกคุณทุกคนคงต้องคิดว่า นี่ฟังดูเหมือนบุคคลที่ประสบกับปัญหาสภาวะทางจิตขั้นรุนแรง นี่ฟังดูเหมือนบุคคลที่มีอาการของโรคประสาท มีตรงไหนบ้าง ที่ผมกล่าวออกไปแล้วฟังดูไม่เหมือนกับ Wanda Maximoff”

ระหว่างที่ Dr.Strange กำลังพยายามอธิบายสาเหตุของเรื่องราวต่างๆอยู่ ภาพจะถูกตัดสลับไปมา เผยให้เราได้เห็นถึงความวิปลาสของแม่มดแดงผู้นี้ตั้งแต่ครั้งอดีต ผ่านประวัติศาสตร์อันยาวนานของกลุ่มอเวนเจอร์ จวบจนกระทั่งถึงวันที่อาจจะกลายเป็นจุดจบของกลุ่มซุปเปอร์ฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

เหล่าผู้กล้าที่มาชุมนุมต่างแทบจะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน จากความพยายามมาตลอดครึ่งค่อนชีวิตในการที่จะปกป้องโลกให้พ้นจากมหันตภัยร้าย แต่พวกเขากลับเก็บสิ่งที่ร้ายกาจที่สุดไว้ข้างตัวมาโดยตลอด และบัดนี้สิ่งนั้นก็ได้เริ่มหันมาแว้งกัดพวกเขาแล้ว

“มีอยู่ทางเดียวที่จะรู้คำตอบ คุณช่วยเราตามหาเธอได้มั้ยครับ... ดอกเตอร์ ได้โปรดเถอะ” Iron Man ตัดสินใจขจัดความสับสนในจิตใจ เพื่อเผชิญหน้ากับความจริง

Dr.Strange บอกว่าเขาสามารถติดตามร่องรอยของเวทมนต์ไปจนถึงตัวของเธอได้ (ทำไมไม่ทำแต่แรก) แต่เขาก็เตือนเหล่าฮีโร่ว่าถ้าทั้งหมดนี่เป็นเรื่องจริง พวกเขาไม่มีทางที่จะเตรียมรับมือกับสิ่งที่เห็นได้แน่

ณ.บ้านแสนสุขที่มิได้ถูกระบุที่ตั้งไว้อย่างชัดเจนของ Scarlet Witch (แต่ในเวป Marvel เอง ดันบอกว่าเป็นอเวนเจอร์แมนชั่นซะนี่ งงจริงๆ ตกลงอยู่ใกล้กันแค่นี้เองเรอะ แต่โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นบ้านของ Agatha มากกว่าครับ ) เธอกำลังจัดเตรียมอาหารเย็นสำหรับครอบครัวที่แสนจะอบอุ่นในจินตนาการของเธอเอง อันประกอบไปด้วย WilliamและThomas ลูกชายสุดที่รักของเธอ ซึ่งบัดนี้เติบโตขึ้นจนอยู่ในวัยกำลังเกรียนแล้ว, สามีประดิษฐ์ Vision, อดีตกิ๊ก Wonder Man (เจ้าชู้จริงๆเอามาทั้งสามี ทั้งกิ๊กเลย แต่ที่แน่ๆนี่เป็นตัวปลอมแน่ เพราะตัวจริงยังยืนรวมกลุ่มกับคนอื่นอยู่เลย) และ อาจารย์ของเธอ Agatha

เกือบจะทุกอย่างในบ้าน รวมถึงตัวผู้อาศัยล้วนเป็นสีขาว ดำ และเทา สีแดงเหมือนกับชุดที่แม่มดหญิงสวมใส่ ดูจะเป็นสีเดียวที่ถูกแต่งแต้มในโลกแห่งนี้อย่างเด่นชัดที่สุด(ผมของเด็กเกรียนสองคน ยังเป็นสีทอง)

“เด็กๆจ๊ะ ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว ของโปรดของลูกทั้งนั้นเลยนะ” Wanda บอกลูกๆของเธอที่ยังคงเล่นซนกันอย่างสนุกสนานตามประสาเด็ก ในขณะที่ผู้ร่วมโต๊ะอีกสามคนที่เหลือไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ แม่มดสาวเองก็ดูจะไม่เดือดร้อนที่จะปล่อยเหล่าอดีตคนรัก และอาจารย์เอาไว้แบบนั้น ทั้งสามคนจึงมีสภาพไม่ต่างไปจากแจกันประดับโต๊ะ

“ลูกสองคนต้องเป็นเด็กดีนะจ๊ะ” แม่มดผู้พยายามจะเล่นบทบาทของผู้เป็นแม่จริงๆ เอ่ยขึ้น ก่อนที่จะลูบหัวลูกรักของตนด้วยความเอ็นดู

“ครับ แม่” ลูกๆของเธอตอบขณะกำลังรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย

“Wanda ได้โปรดให้ผมช่วยคุณเถอะนะ” Captain America แขกผู้ไม่ได้รับเชิญในโลกสมบูรณ์แบบของ Scarlet Witch ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน

การมาแบบปัจจุบันทันด่วนของวีรบุรุษตัวแทนอเมริกานี้ สร้างความตกตะลึงแก่ Wanda เป็นอย่างมาก กระนั้นบุคคลที่ดูจะเดือดร้อนที่สุด กลับกลายเป็นลูกๆของเธอ

“ผมบอกแล้วให้เราลงโทษพวกมันให้หมดทุกคน พวกมันจะมาพรากพวกเราจากกันอีกแล้ว”

“ไม่นะ เขาห่วงใยคุณแม่ เขาเป็นคนดี.... ”

ความคิดของลูกๆทั้งสองของเธอเกิดขัดแย้งกันเอง ประหนึ่งเป็นตัวแทนจิตใจทั้งสองด้านของตัวแม่มดวิกลจริตผู้นี้ ในขณะที่แขกร่วมรับประทานอาหารอีก 3 คนที่เหลือยังคงนั่งนิ่งอยู่ในสภาพเดิม ไม่มีการตอบสนองใดๆทั้งสิ้น เว้นเสียแต่ตัวของ Vison เองที่มีบางส่วนเริ่มระเหยกลายเป็นไอ

“ได้โปรดเถอะ Wanda ทั้งหมดนี่ไม่มีอะไรจริงเลย เด็กพวกนี้ไม่ใช่ลูกของคุณ และพวกเขาก็ไม่ได้พูดด้วย คุณต่างหากล่ะ นี่มันเสียงของคุณ ผมอยากจะช่วยคุณนะ” Captain America พูดพลางถอดหน้ากากที่ปิดบังใบหน้าออก เผยให้เห็นหน้าตาของหนุ่มใหญ่ผู้ผ่านสนามรบมาอย่างโชกโชน ดวงตาทั้งคู่เปี่ยมไปด้วยความเป็นมิตร

จอมเวทย์สาวสติแตกยังคงนิ่งเงียบ ไม่ตอบสนองใดๆ ทว่าดวงตาของเธอกลับกลายเป็นสีแดงฉาน และลูกคนหนึ่งของเธอก็เอ่ยบางอย่างขึ้นด้วยสีหน้าที่โฉดชั่วเกินกว่าอายุของตัวเอง “ดูนั่น!”

ฉับพลันที่ Captain America หันไปตามทิศทางที่ไอ้เด็กเกรียนบอก เขาก็ต้องพบกับ Red Skull หนึ่งในศัตรูตัวฉกาจของเขา พร้อมด้วยทหารนาซีอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเปิดฉากระดมยิงปืนกลใส่เขาทันที แม้ Captain จะสามารถใช้โล่คู่กายป้องกันไว้ได้อย่างทันท่วงทีก็ตาม แต่ตัวของเขาก็ต้องกระเด็นทะลุกระจกหน้าต่าง ปลิวกระเด็นตกลงมาเบื้องล่างอย่างทุลักทุเล

“ไม่ มันจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก แม่ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาพรากลูกๆไปจากแม่อีกแล้ว” Scarlet Witch ปลอบใจลูกทั้งสองของตนที่กำลังหวาดกลัว ก่อนที่จะลอยตัวออกไปเผชิญหน้ากับเหล่าผู้กล้าที่รวมถึงอดีตเพื่อนๆ และคนรักของเธอเอง

แม่มดร้ายปรากฏกายในชุดเสื้อคลุมยาวสีแดงฉาน สมกับฉายาของเธอ เธอลอยตัวขึ้นสูงเด่นอยู่บนท้องฟ้าที่มืดครึ้มราวกับว่าจะเกิดพายุได้ทุกเพลา เพื่อที่จะได้จ้องมองเหล่าผู้โง่เขลา ที่คิดจะมาต่อกรกับเธอได้อย่างถนัดตา เบื้องล่างยังคงมี Captain Americaที่นอนบาดเจ็บจากการโจมตีเมื่อครู่นี้อยู่

“เธอรู้ตัวมั้ยว่าเธอทำอะไรลงไป เธอฆ่า Vision สามีของเธอเอง เธอฆ่า Scott Lang เธอฆ่า Hawkeye Janetกำลังอยู่ในขั้นโคม่า เธอทำลายอเวนเจอร์ ไม่มีอะไรเหลือแล้ว!” Ms.Marvel พุ่งเข้าใส่ Wanda อย่างโกรธแค้น แต่การโจมตีของเธอก็ถูกขัดขวางโดย Rogue หนึ่งในสมาชิก X-MEN ผู้มีความสามารถในการดูดซับพลังชีวิตของทุกสิ่งที่เธอสัมผัส ผู้ซึ่งจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นราวกับเพิ่งจะถูกเสกออกมา สภาพของเธอในขณะนี้เหมือนเมื่อครั้งที่เธอเคยดูดซับพลังของ Ms.Marvel ไปอย่างสมบูรณ์ และทำให้ Ms.Marvel ต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา

ไม่เพียงเท่านั้น บัดนี้เหล่าพันธมิตรผู้กล้าของอเวนเจอร์ทุกคน ต่างต้องเผชิญหน้ากับบรรดาศัตรูคู่อาฆาต หรือไม่ก็มิตรสหายของตน ที่ต่างพากันปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ด้วยน้ำมือของ Scarlet Witch แม่มดผู้อยู่เหนือความเป็นจริงทั้งมวล

Captain America ต้องรับมือกับ Red Skull ในขณะที่ Dr.Banner กำลังดวงตก เพราะต้องเจอกับ The Hulk Beastsหนึ่งในสมาชิกของ X-MEN ก็กำลังมีปัญหากับ Wolverineลูกรักของ Marvel ที่ยังอุตส่าห์หาทางมาโผล่ในหนังสือเล่มนี้จนได้ ส่วน Spider man ก็...เอ่อ...สู้กับ Spider man 2 คน(คิดอะไรดีๆกว่านี้ไม่ได้แล้วรึไง)

ความโกลาหลปรากฏอยู่ทั่วบริเวณ ในขณะที่ Scarlet Witch ยังคงกวัดแกว่งเวทมนต์ร้ายของหล่อน ราวกับว่าเหล่าฮีโร่เบื้องล่าง เป็นเพียงตุ๊กตาที่ถูกเธอชักใยให้เล่นไปตามบทบาทอยู่ โดยมีไอ้เด็กเวร 2 ตัวทำหน้าที่เป็นผู้ชม ทว่าใครเลยจะทันสังเกตเห็นว่านักเชิดหุ่นผู้นี้กำลังแอบร้องให้อยู่

“Wanda Maximoff เธอจะต้องหยุดความบ้าคลั่งทั้งหมดนี่ซะ เธอกำลังทำร้ายตัวเองและเพื่อนของเธอ” Dr.Strange ที่ปรากฏกายขึ้น สาดลำแสงสีฟ้าที่มีลักษณะคล้ายกระแสไฟออกจากฝ่ามือเข้าโจมตีนังแม่มดร้าย ทว่าเจ้าหล่อนหาได้เกรงกลัวไม่ กลับสาดแสงสีแดงที่มีลักษณะแบบเดียวกันออกมาตอบโต้

ลำแสงทั้งสองบัดนี้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ราวกับว่าแกนกลางไม้กายสิทธิ์ของจอมเวทย์ทั้งสองบรรจุขนจากหางของนกฟินิกซ์ตัวเดียวกัน ฉับพลัน Hawkeye ที่ถูก Scarlet Witch ปลิดชีพเป็นรายล่าสุด ก็ได้ผุดออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ของเธอ (เอ่อ ลืมเนื้อหาในบทความนี้ทั้งหมดซะนะครับ)

“ชั้นจะไม่ยอมให้แกมาพรากลูกๆไปจากชั้นอีก” นางแม่มดแดงยังไม่ยอมแพ้ เธอใช้พลังในการควบคุมความเป็นจริงของเธอ เสก Dormammu หนึ่งในศัตรูตัวฉกาจของ Dr.Strange ออกมารับมือกับเขา(อุตส่าห์ไปหาข้อมูลจนเจอนะเนี่ย ว่าไอ้ตัวนี้มันชื่ออะไร)

สีหน้าของ Dr.Strange เปลี่ยนไปทันที ในขณะที่นังแม่มดร้ายหัวเราะอย่างคนมีชัย แต่แล้วหมอแปลกก็เริ่มร่ายเวทย์บางอย่าง “ดวงตาแห่ง Agamotto จะแสดงให้เธอได้เห็นความจริงเอง” หมอแปลกเอ่ยขึ้นในขณะที่วาดนิ้วมือทั้งสองข้างเป็นท่าแฟนพันธุ์แท้ แขนทั้งสองไขว้กันเป็นรูปกากบาท เบื้องหลังของจอมเวทย์ชราปรากฏสัญลักษณ์รูปดวงตาประหลาด ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยตัวอักษรแปลกตาเป็นวงกลม แสงสีน้ำเงินปนเขียวที่สาดส่องออกไปทั่วทุกทิศที่ดวงตาจ้องมองไป มีอำนาจเกินกว่าที่ จอมเวทย์มนต์แดงจะทานทนได้

จะด้วยความเก๋าของ Dr.Strange หรือจิตใต้สำนึกของ Wanda เองที่อยากจะหยุดเรื่องเหล่านี้ หรือเพราะบรรดาเหล่าอเวนเจอร์ทำให้เธอไม่สามารถเพ่งสมาธิได้มากพอ หรือจะด้วยเพราะสาเหตุใดก็ตาม บัดนี้จอมเวทย์วิปริตผู้ก่อหายนะไว้มากกว่าที่ศัตรูทุกตนของเหล่าอเวนเจอร์ได้เคยกระทำไว้รวมกัน ได้ปราชัยแล้ว ร่างที่ร่วงหล่นของเธอถูกรับไว้อย่างทะนุถนอมโดย Captain America เขาจ้องมองร่างที่ไร้สติของหญิงสาวด้วยความเวทนาในชะตากรรม (ยังไม่ตายเน้อ จะว่าไปสองคนนี้มีแอบกิ๊กกันด้วยนะ)

ระหว่างนั้น Nick Fury ก็ได้นำไพร่พลเข้าไปค้นในบ้านซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ และก็ได้ไปจ๊ะเอ๋กับศพของ Agatha Harkness ที่เน่าเปื่อยคาเก้าอี้มาเป็นเวลานานแล้ว (มาแนวหนังสยองขวัญเลย เปิดประตูไป เห็นผู้หญิงนั่งหันหลังบนเก้าอี้ เดินเข้าไปเอาไฟส่องหน้า เจอกับหนังติดกระดูกเต็มๆ)

“คุณทำให้เธอตื่นได้มั้ยครับ” Falcon เอ่ยถามหมอแปลก

“เธอไม่ได้นอนหลับ” หมอแปลกตอบ

“พวกเราจะช่วยเธอยังไงกันดี” Captain America สอบถามความเห็นจากทุกคน

“พวกคุณสามารถส่งเธอมาให้ผมได้” เสียงแปลกปลอมดังขึ้นมาจากท้องฟ้า

“ส่งลูกสาวของผมมา” Magneto มิวแทนท์ผู้มีอำนาจเหนือโลหะทั้งมวล อดีตศัตรูตัวฉกาจของทั้งเหล่า X-MEN และอเวนเจอร์ บิดาโดยสายเลือดของ Scarlet Witch เหาะลงมาจากท้องฟ้าด้วยเอ็ฟเฟกตระการตา เคล็ดลับในการบินได้ของเขา ยังคงเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในเวปพันทิป

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A6891915/A6891915.html

Captain ยอมส่งตัว Wanda คืนให้แก่ผู้เป็นบิดาแต่โดยดี “Xavierพูดถูก เป็นฝีมือลูกจริงๆด้วย” อดีตมหาวายร้ายพูดขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย พลางชายตามองไปยังบุตรสาวที่นอนสิ้นสติในอ้อมแขนของตน “พ่อทำให้ลูกผิดหวัง” พอสิ้นคำ เจ้าแห่งแม่เหล็กก็ค่อยๆพาตัวบุตรสาวผู้น่าสงสาร บินหายลับไปในความมืด โดยที่มิได้สนใจเหล่าฮีโร่ผู้ซึ่งกำลังสงสัยว่าเขาบินได้ยังไง

งานเลี้ยงเลิกแล้ว ไม่มีใครปริปากเอ่ยคำใด ด้วยพลังอำนาจทั้งหมดที่พวกเขามี พลังที่พวกเขาเคยมั่นใจว่าถ้ารวมกันจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคทุกชนิดเพื่อนำมาซึ่งสันติสุขของโลก บัดนี้กลับดูกลายเป็นสิ่งไร้ค่า พลังอันน่าสมเพชที่ไม่สามารถแม้แต่จะใช้หยุดยั้งอดีตเพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งเอาไว้ได้ ทุกคนต่างล่ำลากันอย่างเงียบๆ Ms.Marvel กอดลาอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง Falcon(อีกแล้ว) ก่อนที่ทุกคนจะค่อยๆทยอยกันจากไป วันอันแสนเลวร้ายได้จบลงแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่กำลังจะตามมานั้น มันยิ่งใหญ่เกินกว่าจินตนาการของใครจะคาดการณ์ได้

จบลงไปแล้วนะครับกับ Avengers Disassembled ตามเวปบอร์ดเมืองนอก ก็มีหลายเสียงเหมือนกันที่ไม่ค่อยชอบตอนจบ ที่อยู่ๆก็ให้ Dr.Strange ออกมาอธิบายทุกเรื่อง แถมช่วยจัดการให้เสร็จสรรพ โดยที่พวกอเวนเจอร์ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าค่อนข้างเข้ากับโทนของเรื่องที่ต้องการให้กลุ่มอเวนเจอร์ล่มสลายแล้ว เพราะถ้าเกิดพวกอเวนเจอร์สามารถจัดการทุกอย่างได้เอง มันก็จะกลายเป็นแค่ชัยชนะอีกครั้งของเหล่าอเวนเจอร์ จบแบบที่เป็นอยู่นี้ผมมองว่าเป็นการจบแบบพ่ายแพ้ครับ

แถมรูปงานเลี้ยงส่งอเวนเจอร์จาก Avengers finale เมื่อสมาชิกทุกคนได้รับความกระทบกระเทือนทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ(รวมถึงเงินทุนด้วย) อย่างรุนแรง เกินกว่าที่จะรวมกันเป็นทีมได้อีก อเวนเจอร์จึงประกาศยุบตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการ